วิธีเลือกฮวงจุ้ยบ้านหัวมุม

อะไรคือหลักการเลือกบ้านที่ดีตามาแบบฮวงจุ้ย การเลือกบ้านหัวมุมที่ดีต้องอย่างไรถึงจะถูกต้อง ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าบ้านหัวมุมนั้น ตามเหตุผลปกติที่คนจะเลือกมีอยู่ไม่กี่อย่างคือมันเป็นบ้านที่เปิดสองด้าน หมายความว่าเป็นตำแหน่งที่ได้รับลมได้ทีกว่าบ้านตำแหน่งอื่นๆ ทำให้บ้านมีอากาศเย็นสบายไม่ร้อนอ้าว และดูทิศทางแดดที่จะส่องตัวบ้านที่พระอาทิตย์จะขึ้นทางไหนและตกทางไหน แต่ถ้าเรามามองถึงด้านฮองจุ้ยแล้ว บ้านหัวมุมเป็นอะไรที่ควรระวังไว้อย่างยิ่ง เพราะเราไม่อาจมั่นใจได้ว่ามันจะดีหรือร้าย ขึ้นอยู่กับลักษณะถนนที่อยู่ข้างตัวบ้านว่าเป็นอย่างไร
การเลือกบ้านหัวมุมตามหลักฮวงจุ้ยที่ถูกต้อง จะเลือกบ้านที่มีถนนโอ้บล้อมตัวบ้านเอาไว้ อย่างเช่นถ้าเรามีถนน 4 แยกอยู่ แบ่งเป็นบ้าน 4 หลังตามหัวมุมต่างๆ ได้แก่ A (อยู่ซ้ายบน) B (ขวาบน) C (ซ้ายล่าง) และ D (ขวาล่าง) ถามว่าบ้านไหนดีสุด คำตอบคือบ้าน A และ B เพราะอย่างที่บอกว่าบ้านจะต้องอยู่เหนือถนนที่ ‘โอบอุ้ม’ ส่วนบ้าน C และ D ถือว่าเป็นบ้านที่ไม่ดี เพราะถือว่าเป็นบ้านที่มีลักษณะเชือดเฉือน มีความเชื่อว่าจะทำให้เจ็บป่วย เกิดเรื่องร้าย
การดูทิศทางของบ้านหัวมุม
นอกจากนี้ถนนแล้วยังต้องมาดูทิศทางหน้าบ้านอีก โดยครั้งนี้จะใช้หลักการเดิมกับถนน 4 แยก โดยบ้าน A และ B จะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ส่วนบ้าน C และ D จะต้องหันหน้าตรงข้ามกัน นั่มหมายความว่าจะต้องหันไปทางทิศเหนือ โดยปกติแล้วทิศเหนือจะถือว่าเป็นทิศที่ไม่ค่อยแนะนำ เนื่องจากมีลมพัดอยู่เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น (ประมาณ 2 – 3 เดือน) แต่บ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้จะมีลมพัดตลอดเกือบทั้งปี ทั้งให้บ้านเย็นสบาย ดังนั้นบ้านที่ดีจึงอยู่ที่บ้าน A และแย่สุดคือ D ที่หันหน้าไปทางทิศเหนือซึ่งแทบจะไม่มีลมพัดตลอดทั้งปี และเป็นตำแหน่งที่โดนแสงแดดมากตลอดวัน เพราะด้านข้างของบ้านหันไปทางทิศตะวันตก เชื่อกันว่าจะนำพาโรคร้ายเข้ามาสู่บ้าน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงบ้านประเภท D จะเห็นได้ชัดว่าความเชื่อทางฮวงจุ้ยและวิทยาศาสตร์นั้น มีความเชื่อมโยงกันมากแค่ไหน ในขณะที่ฮวงจุ้ยบอกว่าดีในทางวิทยาศาสตร์ก็มักจะออกมาดีเช่นกัน มีความเชื่อว่าแท้จริงแล้วฮวงจุ้ยก็คือหลักการทางวิทยาศาสตร์ประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นการเอาความเชื่อมาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์จนกลายเป็นหลักฮวงจุ้ยในที่สุด